น้ำเต้า![](../images/by66.gif)
ลักษณะทั่วไปของน้ำเต้า
ถ้าใครที่ชอบดูหนังจีน จะเห็นว่าบางทีภาชนะใส่น้ำยอดฮิตที่ใช้ใน หนังก็คือ น้ำเต้าแห้งแขวนปุเลง ๆ ไว้ตามเอวของบรรดาตัวเอกจอมยุทธ์ ผู้กล้าทั้งหลาย ได้ไปเที่ยวตามดอยก็เห็นมีขาย รูปร่างเหมือนในหนัง อย่างไรก็อย่างนั้นบางที น้ำเต้าก็อยู่ตามศาลเจ้าจีน คนเขียนเองเคยได้หยอกชิ้นหนึ่งสลักเป็นรูปน้ำเต้า ถามเพื่อนที่เป็นคนจีน เขาบอกว่าหยกอย่างนี้เอาไว้ห้อยคอเด็ก เพื่อให้เด็ก คน นั้นเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย คนเราน่าจะรู้จักน้ำเต้ามานานแสนนาน จากฟอส ซิลซากพืชที่พบในแห่งโบราณคดี ที่แม่ฮ่องสอนก็มีเมล็ดน้ำเต้ารวมอยู่ด้วยซึ่ง ก็คงเป็นทั้งอาหาร และของใช้ของผู้คนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในแถบ บ้าน เรา
แหล่งที่พบน้ำเต้า
จะเห็นว่าน้ำเต้าสามารถปลูกที่ใดก็ได้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินและถ้า นำ
ไปปลูกก็จะขึ้นอยู่กับ ผู้ที่ปลูกว่ามีการดูแลรักษามาก น้อยเท่าใด นิยมใช้เมล็ด
ในการขยายพันธุ์
การปลูกน้ำเต้า
จะต้องเตรียมดินให้มีการไถพรวน และยกร่องแปลงปลูกกว้างประมาณ 4 เมตร จะนิยมขุดหลุมปลูกให้กว้าง 15-20 เซนติ
เมตร ลึก 2-3 เซนติเมตร ขุดกลุมห่างกัน 2 เมตร แล้วนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักมารองก้นหลุม หลังจากนั้นก็หยอดเมล็ดลงใน
หลุมปลูกที่เตรียมไว้ ในพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จะใช้เมล็ดน้ำเต้าจำนวน 1.5 กิโลกรัม หยอดหลุมละ 2-3 เมล็ด กลบด้วยดินร่วนให้มี
ความหนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร นำฟางข้าวแห้งหรือหญ้าคาคลุมบนหลุมเพื่อรักษาความชื้นในดินให้มากที่สุดหลังจากนั้น
รดน้ำให้ชุ่มไปเรื่อย ๆ ประมาณ 7- 10 วัน จนกว่าน้ำเต้าจะงอก หมั่นดูแลหากต้นน้ำเต้าขึ้นมาทั้งหมดให้ถอนทิ้งให้เหลือ เพียง 2 ต้นก็พอ เพื่อให้เจริญเติบโตเต็มที่
การดูแลรักษาน้ำเต้าหลังการปลูก
น้ำเต้าเป็นพืชที่มีระบบรากตื้น ต้องการความชื้นปานกลาง หลังจากต้นโตให้รดน้ำประมาณ 3-5 วัน/ครั้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับ
สภาพของ ดินปลูก ว่ามีความแห้งแล้งเพียงใด ถ้าอากาศร้อนมาก ๆ ดินปลูกเริ่มแห้งก้ต้องรดน้ำให้ถี่ขึ้น แต่ต้องคอยดูไม่ให้
ดินแฉะมากเกินไป อาจทำให้เกิดโรครากเน่า หลังปลูกไปได้ประมาณ 25-30 วัน หรือเริ่มมีใบจริง 4-5 ใบ จึงเริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ ใส่บริเวณโคนต้น ไม่ควรพรวนดินให้ลึกเกินไป เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อระบบราก
ไปจนถึงต้นเลยทีเดียว
การกำจัดวัชพืช
ควรจะมีการกำจัดวัชพืชให้น้ำเต้า อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในช่วงที่น้ำ เต้า ยังเล็กอยู่ เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะคลุมพื้นที่ปลูกทั้งหมด จะช่วยลดการ
กำจัดวัชพืชลงได้บ้างบางส่วน
โรคและแมลง
น้ำเต้ามีโรคและแมลงรบกวนค่อนข้างน้อย เนื่องจากใบของน้ำเต้ามีกลิ่น
เหม็น แมลงไม่ชอบ มีข้อควรระวังอย่างเดียวคือ เรื่องของการให้น้ำอย่าแฉะเกิน ไป จนทำให้เกิดโรคราก-โคนเน่า
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
หลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 55-60 วัน ก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้เราเลือกผลที่เหมาะที่จะนำมารับประทานมากที่สุด
ให้สังเกตในช่วง หลังดอกบาน 6-7 วัน ให้เริ่มทยอยเก็บ จะเก็บในลักษณะวันเว้นวัน ทำเช่นนี้ไปจนหมดผลผลิต
การใช้ประโยชน์ของน้ำเต้า
ผลน้ำเต้าสามารถนำมารับประทานกับน้ำพริก ผัดกับหมูและไข่ แกงส้ม สรรพคุณทางยา ใบ แก้ตัวร้อน แก้ร้อนในกระหาย น้ำ แก้เริม เป็นต้น
คุณสมบัติในการใช้รักษาโรคของน้ำเต้า
- โรคเบาหวาน
- ท่อปัสสาวะอักเสบ
- โรคปอดอักเสบ จะใช้ส่วนที่เป็นเปลือกสดรับประทาน
- แก้ปวดฝีในเด็ก โดยใช้น้ำเต้าหั่นเป็นชิ้นๆ ผสมขิงต้มเป็นน้ำซุปรับประทาน
- โรคลูกอัณฑะบวมให้ใช้ลูกน้ำเต้ามาต้มรับประทาน
- โรคทางลำคอให้ใช้ลูกน้ำเต้าที่แก่ ๆ ตัดจุกแล้วใส่น้ำไว้รับประทาน
เป็นโรคประจำจะสามารถป้องกันรักษาโรคทางลำคอได้
ข้อมูลจาก: www.vegetweb.com